Oneday | Pause and Forward ที่เดียวจบครบวงจร

ใครที่เบื่อบรรยากาศออฟฟิศแบบเดิมๆ ตามผมมาเลยครับ เพราะว่าวันนี้ผมจะพาไปรู้จักพื้นที่สำหรับคนที่เบื่อบรรยากาศการทำงานอันจำเจ มาที่นี่ที่เดียวไม่ว่าจะพักผ่อน ทำงาน ทานข้าว ก็สะดวกสบาย ที่สำคัญอยู่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิทสุดชิคอีกด้วย 

สถานที่ที่เราจะพาไปรู้จักกันคือ โครงการ ‘Oneday l Pause and Forward’ โครงการสุดชิคซึ่งรวมพื้นที่แห่งความสุขในหนึ่งวันดีๆ เอาไว้ด้วยกัน เรียกได้ว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้อย่างดีเยี่ยมเลยครับ  ซึ่งโครงการนี้ถูกแบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก ประกอบไปด้วย Oneday Forward Co-working Space โคเวิร์คกิ้งสเปซ บรรยากาศดี น่านั่งทำงาน แถมยังเปิด 24 ชม. , Oneday Pause Hostel  โฮสเทลดีไซน์เรียบเท่ ซึ่งมีห้องพักทั้งแบบ Dorm และ Private , Oneday At A Time ร้านอาหารเสิร์ฟหลากหลายเมนูอร่อย และคาเฟ่สุดเก๋ชื่อดังอย่าง Casa Lapin X26

สำหรับการเดินทาง สามารถนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงสถานีพร้อมพงษ์ ทางออก 4 แล้วต่อมอเตอร์ไซต์รับจ้างมาที่ร้านได้เลย หรือถ้าเน้นสะดวกรวดเร็วก็นั่งแท็กซี่แล้วบอกชื่อร้านเลยครับ อยู่ซอยสุขุมวิท 26 ขับเข้ามาประมาณกลางซอย ร้านอยู่ทางซ้ายมือ

ภายในตกแต่งเป็นสไตล์ Loft เน้นความดิบของผนังและเฟอร์นิเจอร์ไม่ว่าจะเป็นผนังปูนเปลือยอิฐมอญ โต๊ะเก้าอี้ที่เน้นงานไม้และเหล็ก แสงสว่างที่ใช้เพียงเล็กน้อยช่วยเพิ่มมู้ดแอนด์โทนให้ดูดิบยิ่งขึ้น แต่ก็ลดความดุดันด้วยความน่ารักของพนักงานที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเอง

เมื่อสัปดาห์ก่อนผมได้มีโอกาสมานั่งทำงานที่ Oneday Forward Co-working Space ภายใต้โครงการ Oneday ครับ ลากชาวแก๊งค์มานั่งคิดโปรเจ็คงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำเลย จุดเด่นของที่นี่จะเปิด 24 ชั่วโมงเลย เรียกได้ว่าสะดวกสบาย เอาใจสายแข็งที่ต้องทำงานกันจนดึกดื่น หมดห่วงเรื่องทำงานแข่งกับเวลาร้านปิดไปเลยครับ

ภายใน Co-working Space นั้นโปร่งโล่ง กว้างขวาง แถมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้ง อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ปลั๊กไฟ อุปกรณ์ออฟฟิศอย่างกระดาษ ปากกา Coffee Break ระหว่างทำงาน นิตยสารและหนังสือ อีกทั้งยังมีบริการปริ้นเอกสารและพรินต์เอกสารอีกด้วยครับ

ลูกค้าที่มาใช้บริการจะได้รับคีย์การ์ดสำหรับใช้ในการเข้า-ออกพื้นที่ทำงานครับ มีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวสุดๆ

สำหรับการค่าบริการที่นี่จะมีหลายแพ็คเกจ ราคาสบายๆ เมื่อเทียบกับบรรยากาศและการบริการ ในส่วนของ Co-working Space ราคาเริ่มต้นจะเป็นแบบ Quick Use 2 ชั่วโมง 180 บาท และ Daily Use 15 ชั่วโมง 350 บาทครับ หากใครต้องมาใช้ทำงานเป็นประจำก็มีแบบ Membership ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราย 1 เดือน 6,900 บาท นอกจากนี้ยังมีราย 3 เดือน, 6 เดือน และรายปีด้วยครับ ผมว่าราคานี้ไม่แพงเลย

นอกจาก Co-working Space แล้ว ที่นี่ยังมี Meeting Room ห้องประชุมที่ตกแต่งด้วยดีไซน์ทันสมัย ขนาดกำลังพอเหมาะ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป มาพร้อมอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ดินสอ กระดาษโน๊ต กระดานไวท์บอร์ด ปากกามาร์คเกอร์ จอโปรเจคเตอร์ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 700 บาท/ชั่วโมง/ห้อง ใช้บริการได้ 1-10 คนต่อห้อง สำหรับคนที่ 11-15 เป็นต้นไป คิดคนละ 50 บาท/ชั่วโมงครับ และยังมีอีกหลายแพ็คเกจให้เลือกบริการ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เหมาะแก่การมาประชุมงานมากๆ

นั่งทำงานกันทั้งวัน พอเริ่มหิวเราก็แวะมาพักเติมพลังกันที่ร้านอาหาร ‘Oneday At A Time’ หากมาร้านนี้ใครอยากจัดหนักจัดเต็มต้องลองเมนู ข้าวผัดตับไก่สูตรอเมริกัน เสิร์ฟพร้อมซุปใสสไตล์ไทย และอีกเมนูเอาใจคนชอบเส้น แองเจิ้ลแฮร์ในซอสครีมเห็ดนานาชนิด อิ่มแปล้แน่นอน แต่ถ้าใครอยากเติมความหวาน ผมขอแนะนำ ‘Plain Waffle with Freshly Made Sauce’ วาฟเฟิลตีแป้งสดทุกจาน เสิร์ฟพร้อมวิปครีมและซอสสดใหม่

เมื่ออิ่มกับมื้อหลักกันเรียบร้อย พวกเราก็ย้ายพิกัดมานั่งมานั่งจิบกาแฟเพลินๆ ทานขนมอร่อยๆ ที่คาเฟ่ ‘Casa Lapin X26’ กันครับ สำหรับเมนูแนะนำก็ต้องนี่เลย ‘Iced Latte’ ลาเต้เย็นเข้มข้นเข้าถึงรสชาติกาแฟ และอีกหนึ่งเมนูสุดสดชื่นกับ ‘Orange Passion Fruit’ เพิ่มความจี๊ดจ๊าดคูณสองทั้งส้มและเสาวรส ใครง่วงๆ อยู่ตื่นแน่นอน

สำหรับเมนูขนม ผมขอลองกับ ‘พายผักโขม’ เมนูยอดฮิตของทางร้าน แป้งพายกรอบนุ่ม หอมเนย ส่วนตัวไส้ผักโขมนั้นรสชาติเข้มข้น เผ็ดพริกไทยนิดๆ อร่อยลงตัวสุดๆ

และก่อนจะไปนั่งปั่นงานกันต่อ ขอพาเพื่อนๆ แวะไปดูอีกโซนของโครงการ Oneday ซะหน่อย นั่นคือ ‘Oneday Pause Hostel’ โฮสเทลสุดเก๋ ซึ่งห้องพักมีทั้งหมด 31 ห้อง มีทั้งแบบ Dormitory และแบบ Private Room ให้เลือกพักผ่อนในแบบที่ใช่ ใครที่มานั่งทำงานโต้รุ่งที่ Co-working Space ของโครงการ Oneday แนะนำให้นอนพักที่โฮสเทลนี้เลยครับ สะดวกสบายมากๆ

ช่วงนี้ใครเกิดไอเดียอยากย้ายออฟฟิศไปเปลี่ยนบรรยากาศนั่งทำงานชิลๆ ผมแนะนำที่ โครงการ ‘Oneday l Pause and Forward ’ เลยครับ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า FWD MAX เมื่อใช้บริการ Co-working Space สำหรับราคาปกติแบบ Daily Use 15 ชั่วโมง และ Meeting Room (hour-by-hour) รับส่วนลด 10% ทันที ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> www.chillpainai.com/fwdmaxprivilege/
 

สมัครรับสิทธิพิเศษ FWD MAX ได้ง่ายๆ
iOS: https://goo.gl/c1PwMq
Android: https://goo.gl/RVJ6Kl

Tags: กรุงเทพฯ ที่กิิน oneday คาเฟ่กรุงเทพ OnedayPauseandForward คาเฟ่สุขุมวิท FWD FWDMAX

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้